วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

Systems Analysis and Design (การวิเคราะห์และออกแบบระบบ)

Systems Analysis and Design

(การวิเคราะห์และออกแบบระบบ)
ความรู้เบื้องต้นในการวิเคราะห์และการออกแบบระบบ
- ระบบสารสนเทศ (Information System) คืออะไร
- ประเภทของระบบสารสนเทศ
- ระดับการจัดการ (Management Level)
- การวิเคราะห์และการออกแบบระบบคืออะไร
- นักวิเคราะห์ระบบทำอะไรบ้าง
- ใครคือผู้ใช้ระบบ (User)
- กลยุทธ์ในการพัฒนาระบบสารสนเทศ
- Systems Development Life Cycle (SDLC)

ความหมายของระบบ
ระบบ = มีลักษณะกลุ่ม (Set) ที่มีองค์ประกอบ (Component) หลาย ๆ ส่วนรวมกันโดยแต่ละองค์ประกอบจะทำงานร่วมกันเพื่อจุดประสงค์อันเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น ระบบคอมพิวเตอร์ 
ระบบการเรียนการสอน
  ระบบคอมพิวเตอร์ (HW + SW + PW) = ผลลัพธ์ที่ตรงตามความต้องการ
  ระบบการเรียนการสอน (ครู + นักเรียน + เนื้อหา + วิธีการสอน) = นักเรียนที่มีความรู้
ประเภทของระบบ
1.ระบบปิด (Closed System) เป็นระบบที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม มีจุดมุ่งหมายในการทำงานภายในตัวเอง โดยไม่ยุ่งเกี่ยวหรือรับข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมใด ๆ เข้ามา  ตัวอย่างเช่น สัญญาณจราจรแบบปิด
2.ระบบเปิด (Open System) เป็นระบบที่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมด้วยการแลกเปลี่ยน หรือรับข่าวสารจากสภาพแวดล้อมเข้ามาในระบบเพื่อทำการประมวลผลร่วม ตัวอย่างเช่น สัญญาณไฟจราจรแบบเปิด ที่มีตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับความหนาแน่นของรถในแต่ละแยก
ระบบเปิด Open System
เป็นระบบที่มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม ให้สภาพแวดล้อมภายนอกมาเป็นตัวแปรกำหนดการทำงาน
เกิดการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันกับสภาพแวดล้อม
ตัวอย่างเช่น สัญญาณไฟจราจร  ตัวอย่างไฟฟ้าฉุกเฉินที่จ่ายไฟอัตโนมัติ
ระบบธุรกิจ
ระบบธุรกิจ (Business System) : ส่วนใหญ่ประกอบด้วยระบบย่อยพื้นฐาน เช่น ระบบการผลิต ระบบการตลาด ระบบสินค้าคงคลัง ซึ่งมีความสัมพันธ์กันทั้งกิจกรรมที่เกี่ยวข้องและการแลกเปลี่ยนสารสนเทศ ดังนั้นเมื่อมีการศึกษาระบบงาน ควรพิจารณาจากมุมมอง 4 ด้าน คือ
What : วัตถุประสงค์ของระบบคืออะไร
How : วิธีการทำงานอย่างไรเพื่อให้งานสำเร็จ
When : การเริ่มดำเนินงานและผลสำเร็จจุลุล่วงเมื่อไร
Who : บุคคลหรือคณะใดที่ผู้รับผิดชอบในขอบเขตงานของตน
องค์การและระบบสารสนเทศ
องค์การ (Organization) เป็นโครงสร้างของสังคมที่มีการนำทรัพยากร จากสภาพแวดล้อมมาผ่านกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิต ออกมา โดยเป้าหมายองค์การทางธุรกิจ คือผลกำไรจากการดำเนินงานทางธุรกิจ ซึ่งมีรูปแบบของผลตอบแทน                                         1. ผลตอบแทนที่สามารถประเมินค่าได้ (Tangible) เช่น การเพิ่มยอดขายารลดค่าใช้จ่าย การประหยัดพลังงาน การเพิ่มช่องทางการตลาด
     2. ผลตอบแทนที่ไม่สามารถประเมินค่าได้  (Intangible)  เช่น ทัศนคติของลูกค้า ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ขวัญและกำลังใจของพนักงาน เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล ความน่าเชื่อถือ  การนำเสนอสารสนเทศตรงเวลา
ข้อมูลและสารสนเทศ (Data and Information)
ข้อมูล  คือ ข้อมูลดิบ (Raw Data) หรือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  ซึ่งยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์
สารสนเทศ คือ การนำข้อมูลดิบมาผ่านกระบวนการ (Process) เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ หรือสารสนเทศที่มีประโยชน์ต่อการตัดสินใจ
ประเภทของระบบสารสนเทศ (แบ่งตามผู้ใช้)
1. Transaction Processing System (TPS)
2. Management Information System (MIS)
3. Office Automation System/Office Information System(OAS/OIS)
4. Decision Support System (DSS)
5. Executive Support System (ESS)
6. Expert System (ES)
ระบบประมวลผลรายการประจำวัน
        —เป็นการประมวลผบข้อมูลทางธุรกิจประจำวันที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานประจำวัน  เช่น การบันทึกรายการสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้า จัดเป็นการปฏิบัติงานที่กระทำซ้ำ ๆ ในแต่ละวัน และข้อมูลเหล่านี้จะถูกรวบรวมเพื่อนำไปจัดทำรายงานตามความต้องการต่อไป ในบางครั้งอาจเรียกว่า ระบบปฏิบัติงาน (Operational Systems)
Management Information systems : MIS
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (MIS) เป็นแหล่งรวมของระบบ TPS  และเมื่อมีการทำรายงานสรุปยอดประจำสัปดาห์ หรือประจำเดือน โดย MIS
ตัวอย่าง ธนาคารจะดูรายงานเกี่ยวกับการฝาก ถอนเงินรวมในแต่ละเดือนของลูกค้า เพื่อเตรียมเงินสำรองไว้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้า 
Office Automation System  : OAS
Office Information System  : OIS
        เป็นระบบที่เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานด้านการจัดการสำนักงานและการสื่อสาร โดยมีผลิตภัณฑ์ Software ที่สนับสนุนงานในลักษณะนี้ ประกอบด้วย
  ¿ โปรแกรมประมวลผลคำ
  ¿ โปรแกรมตารางงาน
  ¿ โปรแกรมฐานข้อมูล
  ¿ โปรแกรมนำเสนอผลงาน
  ¿ โปรแกรมออกแบบกราฟิก
  ¿ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์  ฯลฯ
Decision Support Systems : DSS
—           จัดทำขึ้นเพื่อสนองความต้องการของผู้บริหาร ด้วยการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลทางสถิติ หรือในรูปของกราฟเปรียบเทียบ เพื่อนำไปประกอบเป็นทางเลือกในการตัดสินใจของผู้บริหารหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด นอกจากจะนำสารสนเทศภายในระบบ TPS และ MIS มาใช้งานแล้ว อาจจะนำสารสนเทศจากภายนอกระบบมาใช้งานร่วมด้วย   เช่น ข้อมูลจากตลาดหุ้น หรือราคาของคู่แข่งขันมาประกอบ  ในการพิจารณา
Executive Support System : ESS
  •    —ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ DSS มักใช้กับงานด้านการพยากรณ์และการทำนายเป็นส่วนใหญ่ จะใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้บริหารระดับกลาง 
  • ระบบสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหาร ESS จะคล้ายกับ DSS แต่จะต่างกันที่ ESS จะเป็นการตัดสินใจในระดับกลยุทธ์และนโยบายของผู้บริหารระดับสูง
Expert Systems : ES
         —เป็นการรวบรวมความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาต่าง ๆ เข้าด้วยกัน หรืออาจเรียกว่า ระบบฐานความรู้ (Knowledge Base) เป็นระบบที่สนับสนุนการทำงานเฉพาะด้าน เช่น นักวิทยาศาสตร์ วิศวกร หมอ เป็นต้น  นอกจากนี้ ES ยังเป็นแขนงหนึ่งของระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI)  ซึ่งเป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในระดับสูงขึ้นโดยมีระบบสมองกลเป็นผู้โปรแกรมคำสั่งโดยตรง
การวิเคราะห์ (System Analysis)
           การวิเคราะห์ระบบ เป็นการศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบงานปัจจุบัน (Current System) เพื่อออกแบบระบบใหม่ (New System) เป้าหมายยังรวมถึงการปรับปรุงและแก้ไขระบบงานเดิมให้ดีขึ้น ในการวิเคราะห์ระบบเพื่อพัฒนาระบบใหม่ทดแทนระบบงานเดิมจะประกอบด้วยเหตุผลดังนี้
    h ปรับปรุงบริการแก่ลูกค้า
    h เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    h เพิ่มกระบวนการควบคุมการทำงาน
    h ลดต้นทุนการดำเนินงาน
    h ต้องการสารสนเทศมากขึ้น
การวิเคราะห์ (System Analysis)
แนวทางในการจัดการดำเนินการของระบบจะประกอบด้วย 3 แนวทาง คือ
  J ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ
  J ปรับปรุงระบบเดิมให้ดีขึ้น
  J พัฒนาระบบใหม่
นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst : SA)
1. คือ ผู้ประสานการติดต่อบุคคลต่าง ๆ
2. เพื่อรวบรวมข้อมูลความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบ
3. แล้วนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์  เพื่อทำการสร้างระบบใหม่
4. งานหลัก คือ
วางแผน (Planning)
วิเคราะห์ความต้องการ (Requirement Analysis)
พิจารณาตัดสินใจใช้ระบบสารสนเทศ
กำหนดรายละเอียดระบบใหม่
จัดหา Hardware & Software ใหม่
เหตุผลที่ต้องมี SA
SA มีวิธีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานพัฒนาระบบงานข้อมูล เพื่อช่วยในงานธุรกิจ ซึ่งนักธุรกิจจะไม่มีความรู้ในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ แต่ Programmer มีความรู้ในเทคนิคการเขียนโปรแกรม แต่อาจจะไม่เข้าใจในระบบธุรกิจ
ทีมงานพัฒนาระบบ
1.คณะกรรมการดำเนินงาน (วางนโยบาย แนวทาง วัตถุประสงค์)
2.ผู้จัดการระบบสารสนเทศ (ควบคุมระดับปฏิบัติการ 3 - 7)
3.นักวิเคราะห์ระบบ (วิเคราะห์และออกแบบระบบงาน)
4.โปรแกรมเมอร์ (เขียนโปรแกรมตามที่นักวิเคราะห์ออกแบบมา)
5.วิศวกรระบบ (สร้างระบบสื่อสาร)
6. ผู้สนับสนุนฝ่ายเทคนิค (ผู้ช่วยสนับสนุนทางเทคนิคต่าง ๆ)
7.เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูล (รวบรวมข้อมูลเพื่อการพัฒนา)
8.ผู้ใช้งาน (ผู้ใช้งานระบบ, ผู้แจ้งความต้องการของระบบ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น